เคยไหม ตั้งเป้าเอาไว้ว่าการลงทุนที่ง่ายที่สุด คือ การลงซื้อ – ขึ้นขาย พยายามเลือกสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูง ศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน เตรียมกลยุทธ์ไว้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสินทรัพย์ การวิเคราะห์กราฟ หรือการติดตามมุมมองผู้เชี่ยวชาญ แต่ทำไมพอร์ตกลับไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้?
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม คือ “อคติ” (Bias) หรือ อุปสรรคที่อยู่ในจิตใจ ทำให้ไม่กล้าทำตามสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ ลังเล ไม่กล้าลงมือ หรือเลือกทางที่ไม่สอดคล้องกับหลักการลงทุนที่ดีในระยะยาว
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 9 อคติทางจิตใจที่มักเกิดขึ้นกับนักลงทุน พร้อมแนวทางในการรับมือ
1. Confirmation Bias : เชื่อเฉพาะสิ่งที่อยากเชื่อ
เลือกอ่านเฉพาะบทวิเคราะห์ที่ตรงใจ หลีกเลี่ยงข้อมูลที่ขัดแย้ง เช่น ชอบหุ้นเทคโนโลยีก็อ่านแต่มุมบวก ไม่สนใจความเสี่ยงของ Valuation โอกาสเกิดฟองสบู่ หรือโอกาสถูกเข้ามาแทนที่ (Disruption) ทำให้มองโลกด้านเดียว ขาดความระมัดระวัง อาจพลาดโอกาสที่ดี หรือมองข้ามความเสี่ยงสำคัญๆ ได้
2. Loss Aversion Bias : กลัวขาดทุนมากกว่าดีใจตอนกำไร
สมองของเรามักให้ความสำคัญกับ “ความเจ็บปวดจากการขาดทุน” มากกว่าความสุขจากการได้กำไร ทำให้นักลงทุนจำนวนมากทนถือสินทรัพย์ที่ขาดทุนนานเกินเหตุ แต่รีบขายหุ้นที่มีกำไร ทำให้พลาดโอกาสเติบโตในระยะยาว
3. Recency Bias : เชื่อว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
เช่น หุ้นขึ้นแรงใน 3 เดือนที่ผ่านมา เลยคิดว่าจะขึ้นต่อไปอีกเรื่อยๆ แต่ลืมนึกถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ปัจจัยพื้นฐานที่อาจเปลี่ยนแปลง หรือ Valuation ที่ใกล้ฟองสบู่มากขึ้น ทำให้อาจมองข้ามความเสี่ยง หรือ ลงทุนผิดพลาดได้
4. Home Country Bias : ลงทุนแต่ในประเทศตัวเอง เพราะ “คุ้นเคย”
ลงทุนเฉพาะสิ่งคุ้นเคย หรือใกล้ตัว จนมองข้ามโอกาสดีๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป
5. Status Quo Bias : ชอบอยู่กับที่ ไม่กล้าปรับพอร์ต
แม้สภาวะตลาดจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่หลายคนยังคงยึดติดกับพอร์ตเดิม เพราะกลัวความผิดพลาดจากการเปลี่ยนแปลง จนทำให้พลาดโอกาสใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้พอร์ตเติบโตได้มากกว่าเดิม
6. Overconfidence Bias : มั่นใจว่าแน่ มั่นใจว่าเหนือกว่าตลาด
ซื้อๆ ขายๆ หรือ เทรดบ่อยเพราะคิดว่า “เรารู้จังหวะ”, “เราวิเคราะห์เก่งกว่า” ทำให้อาจมองข้ามความเสี่ยงหลายๆ ส่วนไป
7. Anchoring Bias : ยึดติดกับ “ราคาซื้อ” หรือ “ราคาสูงสุดในอดีต”
ซื้อหุ้นที่ 100 บาท ตอนนี้อยู่ที่ 80 บาท ไม่ยอมขายแม้พื้นฐานเปลี่ยน เพราะ “ติดที่” เชื่อว่า ต้องกลับไปที่ 100 ทั้งๆ ที่ตลาดไม่สนใจว่าคุณซื้อที่เท่าไหร่ มันเดินไปตามปัจจัยพื้นฐาน
8. Endowment Bias : เชื่อว่าของที่เราถืออยู่ คือของที่ดีที่สุดเสมอ
พอเราถือหุ้นหรือกองทุนหนึ่งมานาน จะเริ่มรู้สึก “ผูกพัน” ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว การลงทุน เป็นเรื่องของเหตุผลไม่ใช่ความรู้สึก ลืมประเมินว่า ยังเหมาะอยู่ไหม ทำให้อาจพลาดโอกาสดีๆ หรือลงทุนผิดพลาดไป
9. Herding Bias : วิ่งตามฝูงชน เพราะกลัวตกขบวน
หุ้นไหนคนพูดถึงเยอะ หุ้นไหนขึ้นแรง ต้องรีบกระโดดเข้าไปเพราะกลัว “พลาด” สุดท้ายได้ “ซื้อตอนเสียงดัง” แต่ “ขายตอนเงียบเหงา” ติดยอดดอยยาวๆ ไป
แล้วนักลงทุนควรทำอย่างไร
1. Stay Invested ลงทุนอยู่เสมอ เพื่อลดการพลาดโอกาส ให้ตลาดช่วยสร้างผลตอบแทน
2. Open Minded เปิดใจกว้างรับโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ที่อาจเข้ามา แต่ต้องศึกษาก่อนลงทุนจริงจัง
3. Establish a system ตัดสินใจอย่างเป็นระบบ พร้อมจดบันทึก เพื่อให้สามารถพัฒนาการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง
4. Stay Humble ถ่อมตนว่าคนหนึ่งคนไม่สามารถรู้ทุกอย่าง หรือ ถูกทุกครั้ง ช่วยลดโอกาสมั่นใจเกินไป อีกทั้งยังเปิดทางให้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ
หรือ หากต้องการปรึกษาสถานการณ์ด้านการลงทุน พอร์ตการลงทุนปัจจุบัน สนใจวางแผนเพื่อการลงทุน การวางแผนเพื่อเกษียณอายุ และการจัดการสินทรัพย์ครอบครัวติดต่อ FINANSIA WEALTH เรามีผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อเปิดบัญชีได้ที่
📌 บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส
📌 ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ลงทุนลูกค้า
☎️ 02-625-2442
✉️ finansia-wealth@fnsyrus.com
ติดตามเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงก์ด้านล่าง
Web : https://www.finansiawealth.com/
Facebook : https://www.facebook.com/FinansiaWealth?mibextid=LQQJ4d
Yotube : https://youtube.com/@finansiasyrusfnsyrus?si=zgv2lBycsiXBkaKd