แม้ยังไม่ถูกเสนอชื่อ แต่แนวคิดมีอิทธิพลต่อทิศทางดอกเบี้ย และหากได้รับการเสนอชื่อจริง จะส่งผลต่อตลาดทันที แม้คนเดิมจะยังมีอำนาจ
ความขัดแย้งระหว่าง Donald Trump และ Jerome Powell
ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาตลาดการเงินทั่วโลกจับตา “ศึกกลาง Fed” เมื่อ Donald Trump ส่งสัญญาณไม่ไว้วางใจ Jerome Powell ประธาน Fed คนปัจจุบัน หลังเค้าพยายามกดดันอย่างหนักให้ Powell ลดอัตราดอกเบี้ย จนลามมาถึงรายงานที่ว่า เค้ามีแผนที่จะปลดพาวเวลล์ออกจากตำแหน่ง โดยถึงขั้นโชว์จดหมายร่างคำสั่งปลด ทำให้ในขณะนั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง ส่วนบอนด์ยีลด์และราคาทองคำพุ่งขึ้นทันที (16 ก.ค.)
แต่ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากนั้น ทรัมป์ก็กลับคำต่อหน้าสาธารณชน โดยกล่าวว่าเค้าไม่มีแผนจะปลดพาวเวล และเห็นว่า #แทบไม่มีโอกาสที่จะดำเนินการใดๆ เว้นแต่พาวเวลล์จะถูกพบว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ตลาดการเงินพลิกกลับทันที และถูกขนานนามว่าเป็นการเคลื่อนไหวแบบ “TACO” (Trump Announces, Contradicts Overnight)
เริ่มกระบวนการหาผู้สืบทอดตำแหน่ง
รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ Scott Bessent ชี้กระบวนการคัดเลือกประธานเฟดคนใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว พร้อมแย้มว่า พาวเวลล์ควรลาออกเมื่อมีผู้มารับช่วงต่อ เรื่องนี้สร้างความกังวลต่อตลาดเกี่ยวกับ #ความเป็นอิสระของเฟด โดยมีการคาดการณ์ออกมาว่าอาจมีการเสนอชื่อผู้รับตำแหน่งเร็วที่สุดในช่วงปลายปีนี้ และผู้ได้รับการเสนอชื่ออาจได้เข้าสู่ FOMC ล่วงหน้าผ่านช่องว่างในคณะกรรมการ ซึ่งถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ของทรัมป์ในการโน้มน้าวทิศทางนโยบายการเงิน
ทั้งนี้ Jerome Powell ยังคงมีวาระดำรงตำแหน่งประธานเฟดถึงเดือนพฤษภาคม 2569 และสามารถดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการเฟดได้อีกจนถึงเดือนมกราคม 2571
ผู้ท้าชิงประธานเฟดคนถัดไป “ตัวเต็ง”
✅ Scott Bessent – รัฐมนตรีคลังคนปัจจุบัน – อายุ 61
เบสเซนต์บอกกับสมาชิกรัฐสภาว่า เขายังต้องการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังต่อไป แต่ก็ไม่ปฏิเสธโอกาสที่จะขึ้นเป็นประธานเฟด เขาเคยเสนอแนวคิด Shadow Chair มาตั้งแต่ปี 2024 ก่อนที่ทรัมป์จะได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง โดยไม่ค่อยแสดงความเห็นเรื่องนโยบายการเงิน และเน้นเรื่องนโยบายเศรษฐกิจ เช่น ลดภาษี ยกเลิกกฎระเบียบ และส่งเสริมการค้า
✅ Kevin Warsh – นักวิจัยด้านเศรษฐกิจ – อายุ 55
มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรครีพับลิกัน เคยให้คำแนะนำกับทรัมป์ช่วง ก.พ.–มี.ค. ว่าไม่ควรเปลี่ยนพาวเวลล์ก่อนหมดวาระในปี 2026 วาร์ชเคยเป็นสายเหยี่ยว (Hawkish) ที่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย แต่ปัจจุบันสนับสนุนการลดดอกเบี้ยมากขึ้น และเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบเฟด เชื่อว่าต้นต่อเงินเฟ้อ ไม่ได้มาจากภาษีการค้า
✅ Kevin Hassett – ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ – อายุ 62
เป็น Director of National Economic Council และที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจคนสำคัญของทรัมป์ในวาระแรก เขาสนับสนุนทรัมป์ในทุกด้าน ทั้งการค้า ภาษี เงินเฟ้อ และนโยบายของเฟด ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่พันธมิตรทรัมป์ให้การสนับสนุน เป็นสาย Ultra Dove
✅ Christopher Waller – ผู้ว่าการเฟดที่ทรัมป์แต่งตั้งเมื่อ 5 ปีก่อน – อายุ 64
เป็นคนแรกที่สนับสนุนการลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนกรกฎาคม เชื่อว่าเงินเฟ้อที่เกิดจากภาษีเป็นเรื่องชั่วคราว และอัตราดอกเบี้ยควรมองข้ามผลกระทบระยะสั้นเหล่านี้ เป็นสาย Dovish
ใครมาแรงสุด?
แบบสำรวจจาก Bank of America เดือนกรกฎาคมพบว่า
26% เลือก Scott Bessent
17% เลือก Kevin Warsh
14% คือ Christopher Waller
7% ให้กับ Kevin Hassett
ขณะที่แพลตฟอร์มเดิมพัน Polymarket (23 ก.ค.) ชี้ว่า
30% เชื่อว่าจะไม่มีการเสนอชื่อภายในปีนี้
23% เลือก Kevin Warsh
17% เลือก Christopher Waller
15% เลือก Kevin Hassett
14% เลือก Scott Bessent
ผลกระทบต่อนโยบายการเงินและตลาด?
🔸ตลาดให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความเป็นอิสระของเฟด หากสูญเสียความเชื่อนี้ ความสามารถในการควบคุมเงินเฟ้ออาจถูกตั้งคำถาม และกระทบราคาสินทรัพย์ทั่วโลก
🔸นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley มองว่า “เงาประธานเฟด” ไม่น่าจะสามารถเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟดได้ในทันที เพราะนโยบายยังต้องผ่านการลงมติจากคณะกรรมการ FOMC แม้ประธานจะมีอิทธิพล แต่ไม่สามารถชี้ขาดได้เพียงลำพัง
🔸ในระยะยาว ประธานเฟดจะมีอำนาจมากขึ้นในการกำหนดทิศทาง ผ่านการเสนอชื่อกรรมการเฟดชุดใหม่ และสามารถมีอิทธิพลทางอ้อมต่อประธานเฟดสาขาภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข่าวทยอยออกมาว่า สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่รีบร้อนที่จะเสนอชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่เพื่อมาแทนที่นายเจอโรม พาวเวล ส่วนนางมิเชล โบว์แมน รองประธานเฟด อยู่ในรายชื่อผู้ที่ได้รับพิจารณาว่าจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่หรือไม่ นายเบสเซนต์ตอบว่า “ผมขอไม่เอ่ยชื่อใคร แต่ก็มีผู้ที่ได้รับการพิจารณาหลายคน ทั้งในบอร์ดของเฟด, ประธานเฟดระดับภูมิภาคที่เป็นผู้หญิงหลายคน และยังมีผู้หญิงเก่ง ๆ จากนอกเฟดอีกด้วย”
คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
FINANSIA WEALTH เรามุ่งเน้นการให้บริการด้านการวางแผนเพื่อการลงทุน การวางแผนเพื่อเกษียณอายุ และการจัดการสินทรัพย์ครอบครัว ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุนที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมส่งเสริมความรู้ด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อเปิดบัญชีได้ที่
📌 บมจ. หลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส
📌 ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ลงทุนลูกค้า
☎️ 02-625-2442
✉️ finansia-wealth@fnsyrus.com
ติดตามเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงก์ด้านล่าง
Web : https://www.finansiawealth.com/
Facebook : https://www.facebook.com/FinansiaWealth?mibextid=LQQJ4d
Yotube : https://youtube.com/@finansiasyrusfnsyrus?si=zgv2lBycsiXBkaKd