6 ข้อสำคัญต้องรู้ ป้องกันความผิดพลาดเรื่อง “จัดการทรัพย์สินครอบครัว”

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มีหลายข่าวที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องของการแบ่งทรัพย์สินของครอบครัวถึงขั้นยื่นฟ้องร้องกันซึ่งนำไปสู่ความแตกแยกหรือร้ายแรงสุดถึงขั้นมีการฆาตรกรรมกันเกิดขึ้นในครอบครัว

เรื่องของการจัดการทรัพย์สินครอบครัวนั้นเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้คนส่วนใหญ่มักไม่ได้นึกถึงมากนัก แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นนับเป็นเรื่องที่ใหญ่และแก้ไขได้ค่อนข้างยากและใช้เวลานานเนื่องจากมีเรื่องของทรัพย์สินและเรื่องของกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยดังนั้นการป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจึงเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการมาแก้ไขในภายหลัง

Finansia Wealth เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดการทรัพย์สินครอบครัวจึงได้รวบรวมข้อผิดพลาดที่ผู้คนส่วนใหญ่มักจะนึกไม่ถึง มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้างที่ต้องรู้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการจัดการทรัพย์สินของครอบครัวขึ้นในอนาคต

1. ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินครอบครัว ทำให้ไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า

เพราะความไม่รู้และไม่ได้เห็นความสำคัญของการจัดการทรัพย์สินครอบครัว เมื่อเกิดปัญหาขึ้นทำให้การแก้ปัญหานั้นเป็นไปได้ยาก ดังนั้นการศึกษาหาข้อมูลหรือความรู้เพิ่มเติมเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก

2. ใช้เครื่องมือและบริการทางการเงินไม่เหมาะสม เครื่องมือและบริการทางการเงินมีมากมายให้เลือกใช้ แต่หากเลือกใช้ผิดประเภท ผิดจุดประสงค์ เช่น การมองว่าเงินฝากคือสภาพคล่องแต่ในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ใช่สภาพคล่องก็ได้ บางกรณีอาจจะไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ในยามจำเป็น หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการลงทุน ที่มีความผัน ก็สามารถขาดทุนได้เช่นกัน ดังนั้นการใช้เครื่องมือและบริการทางการเงินให้เหมาะสมควบคู่ไปกับการจัดการทรัพย์สินครอบครัวจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

3. มีทรัพย์สินหลายอย่างแต่กระจัดกระจาย ส่งผลให้ดูแลสินทรัพย์ได้ยาก ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมาก โดยเฉพาะท่านที่มีทรัพย์สินเยอะหรือเป็นเจ้าของกิจการ ทรัพย์สินที่ลูกค้ามีอยู่จะมีมากมายทั้งทรัพย์สินที่เป็นชื่อของตัวเอง ทรัพย์สินที่เป็นชื่อของคนในครอบครัว และทรัพย์สินที่เป็นชื่อของบริษัท ดังนั้นหากไม่มีการจัดระเบียบใหม่และไม่บริหารจัดการให้ดี จะทำให้การจัดการทรัพย์สินในภาพรวมนั้นจัดการได้ยากและล่าช้า

4. มองข้ามการใช้เครื่องมือทางกฎหมาย จริงอยู่ในเรื่องที่ว่าการจัดการทรัพย์สินนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือทางการเงินเป็นหลัก แต่บางครั้งท่านอาจจะมองข้ามการใช้เครื่องมือทางกฎหมายไป เมื่อเกิดปัญหาขึ้นสุดท้ายใช้เครื่องมือทางกฎหมายเข้ามาช่วยจะส่งผลให้ครอบครัวมีปัญหาตามมา เพราะฉนั้นในการเข้าใจกฎหมายที่จำเป็นและเกี่ยวกับกฎหมายของครอบครัวจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายและลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

5. ทำประกันชีวิตไม่สัมพันธ์กับความต้องการ แน่นอนว่าการปิดความเสี่ยงที่ดีอย่างหนึ่งคือ “การทำประกันชีวิต” คนส่วนมากจึงเลือกทำประกันชีวิตแต่อาจจะไม่สัมพันธ์กับความต้องการของคนภายในครอบครัวจริงๆ ส่งผลให้จ่ายค่าเบี้ยประกันมากเกินความจำเป็น ทำให้สิ่งที่ได้มาไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป หรืออาจจะทำประกันความเสี่ยงน้อยเกินไปกับสิ่งที่จำเป็นสำหรับครอบครัว จึงจำเป็นที่จะต้องมาทบทวนว่าคนในครอบครัวมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ประกันในเรื่องใดบ้าง เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่และจ่ายเท่าที่จำเป็นต้องใช้

6. ขาดการเตรียมพร้อมทั้งก่อนและหลังเสียชีวิต ในเรื่องของการจัดการทรัพย์สินครอบครัวนั้น ในตอนที่มีชีวิตและตอนที่เสียชีวิตไปแล้ว การจัดการทรัพย์สินนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฉนั้นผู้ที่เป็นผู้นำครอบครัวต้องเข้าใจถึงการจัดการทรัพย์สินทั้งก่อนและหลังเสียชีวิต เพื่อที่จะได้วางแผนอย่างครบถ้วนไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตเวลาที่ท่านไม่อยู่แล้ว

ให้ FInansia Wealth ช่วยวางแผนในทุกช่วงเวลา ตั้งแต่เริ่มต้นความมั่งคั่ง ไปจนถึงเมื่อใกล้เวลาต้องส่งต่อด้วย บริการที่ปรึกษาด้านการจัดการทรัพย์สินครอบครัว (Family Wealth Planning) ด้วยเครื่องมือที่จบวงจรทั้ง ด้านกฎหมาย ภาษี และบัญชี ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพย์สินของครอบครัว ด้านการเจรจา เช่น การจัดตั้งธรรมนูญครอบครัว ด้านความคุ้มครอง เช่น ประกันชีวิต และประกันวินาศภัยที่เหมาะสม และ ด้านการลงทุน เช่น กองทุนรวม, กองทุนส่วนบุคคล หุ้นกู้ หรือ ETF ที่ครอบคลุมสินทรัพย์การลงทุนทั่วโลก

ครอบคลุมทุกด้านของการจัดการทรัพย์สินครอบครัว  ทั้งการบริหารภาษีที่เกี่ยวข้องกับจัดการทรัพย์สินครอบครัว, การจัดเตรียมช่องทางการส่งต่ออย่างราบรื่น ไปพร้อมๆ กับทำให้ทรัพย์สินเหล่านั้นเติบโตตามเป้าประสงค์ได้ในระยะยาว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อเปิดบัญชีได้ที่ : 

ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ลงทุนลูกค้า

02-625-2442

wealth-management@fnsyrus.com

ติดตามเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Web : https://www.finansiawealth.com/

Facebook : https://www.facebook.com/FinansiaWealth?mibextid=LQQJ4d

Yotube : https://youtube.com/@finansiasyrusfnsyrus?si=zgv2lBycsiXBkaKd

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในปี 2568 นี้เป็นปีที่สำคัญสำหรับนักลงทุนไทยที่ลงทุนใน LTF นับตั้งแต่ต้นจนกระทั่งถึงปีสุดท้ายที่ LTF สามารถลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้ เนื่องจากเป็นการครบกำหนดทั้งหมดของกองทุน LTF นำมาซึ่งคำถามสำคัญ ทำอย่างไรต่อดี

ก่อนตัดสินใจควรสำรวจปัจจัยสำคัญเหล่านี้

1. สภาพคล่องการเงิน

  • หากมีปัญหาด้านการเงิน LTF ที่ครบกำหนดจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องหรือใช้ลดภาระหนี้สินได้
  • แต่ถ้าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ควรพิจารณาถือครองต่อเพื่อโอกาสในการเติบโตในระยะยาว หรือถือเพื่อรอรับเงินปันผล หากกองทุนที่ลงทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผล

2. ผลตอบแทนสุทธิ

  • ประเมินกำไรหรือขาดทุนสุทธิ โดยคำนวณทั้ง #ปันผลที่ได้รับ และ #สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ผ่านมา
  • หากมีกำไร การขายเพื่อรับผลตอบแทนอาจเป็นทางเลือก แต่ถ้าขาดทุน ควรพิจารณาลงทุนใหม่เพื่อชดเชย

3. ความต้องการสิทธิลดหย่อนภาษี

  • หากยังต้องการลดหย่อนภาษี การ reinvest ผ่านกองทุน RMF หรือ ThaiESG อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่อง แนะนำให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และอาจทำให้เสียโอกาสการออมเงินเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว

ข้อดี เพิ่มสภาพคล่องและลดความเสี่ยงจากตลาดหุ้น 

ข้อเสีย พลาดโอกาสการเติบโตของพอร์ตในระยะยาว

แต่หากท่านเป็นนักลงทุนที่ไม่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง การ reinvest ยังคงทางเลือกหลักที่เราแนะนำ ข้อดีของการ reinvest หลัง LTF ครบกำหนด

  • เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว
  • ลดความสูญเสียจากการขาดทุนเดิมผ่านการลงทุนใหม่
  • ยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากเลือก RMF หรือ ThaiESG

ตัวอย่างทางเลือกในการ reinvest

1. ลงทุนผ่านกองทุน ThaiESG

“กองทุนตราสารหนี้” อาทิ KKP GB THAI ESG และ K-ESGSI-ThaiESG 

เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ และสามารถสับเปลี่ยนไปยังกองทุนหุ้น ThaiESG ในบลจ.เดียวกันได้ ในยามที่ประเมินแล้วว่าสินทรัพย์หลักอย่างหุ้นไทย ปรับตัวลงมาถึงระดับที่น่าสนใจ หรือมีโอกาสเติบโต


“กองทุนผสม” อาทิ KTAG70/30-ThaiESG และ ES-ESG3070-ThaiESG-A 

เหมาะสมกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง มีส่วนผสมทั้งหุ้นไทยและตราสารหนี้

“กองทุนหุ้นไทย” อาทิ K-TNZ-ThaiESG และ KKP EQ THAI ESG 

เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง และสามารถสับเปลี่ยนไปยังกองทุนตราสารหนี้ในบลจ. เดียวกันได้ เมื่อพึงพอใจ

2. ลงทุนผ่านกองทุน RMF
เพื่อรับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่หลากหลายมากขึ้น หนุนโอกาสสร้างผลตอบแทนฟื้นคืนส่วนชดเชยผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจาก LTF ได้ พร้อมกับได้ลดหย่อนภาษีอีกครั้ง

3. ลงทุนผ่านกองทุนรวม หรือ สินทรัพย์อื่นๆ 

เพื่อกระจายความเสี่ยง อาทิ กองทุนส่วนบุคคล GSA CORAL, หรือ Global Allocation และหุ้นกู้คุณภาพดีจำนวนมาก รวมถึงกองทุนรวมทั่วๆ ไป

สำหรับผู้ขาย LTF ในปีนี้และไม่ต้องการลดหย่อนภาษีต่อ สามารถเลือกลงทุนได้อย่างอิสระ บนความเสี่ยงที่ท่านสามารถรับได้ เช่น 

“กองทุนหุ้นโลก” โอกาสเติบโตไปพร้อมกับประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่ง อาทิ  KKP GNP, KKP PGE-UH, UESG, KFGG-A


“หุ้นต่างประเทศรายตัว” หรือ “ETF” เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ จากการลงทุนในตลาดต่างประเทศ อาทิ GOOGL, NVDIA, TSMC, QQQ, SPY ฯลฯ 

หรือจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยง ผสมผสานแบบหลากหลาย ทั้ง กองทุนรวม, ETF, Structure Note, หุ้นต่างประเทศ และ Private Assets 

FINANSIA WEALTH เรามุ่งเน้นการให้บริการด้านการวางแผนเพื่อการลงทุน การวางแผนเพื่อเกษียณอายุ และการจัดการสินทรัพย์ครอบครัว ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุนที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมส่งเสริมความรู้ด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง 

คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน ทั้งนี้หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อเปิดบัญชีได้ที่
ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ลงทุนลูกค้า
☎️ 02-625-2403
✉️ wealth-management@fnsyrus.com

ติดตามเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงก์ด้านล่าง
Web : https://www.finansiawealth.com/
Facebook : https://www.facebook.com/FinansiaWealth?mibextid=LQQJ4d
Yotube : https://youtube.com/@finansiasyrusfnsyrus?si=zgv2lBycsiXBkaKd

เกษียณไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 50 การเตรียมตัวเพื่อเกษียณในอีก 5-10 ปีข้างหน้าถือเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องเริ่มต้นอย่างรอบคอบ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการรักษามาตรฐานคุณภาพชีวิตในช่วงวัยเกษียณให้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกษียณ มาดูกันว่าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

1. ประเมินรายจ่าย
เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์รายจ่ายในชีวิตประจำวันว่าแต่ละเดือนแต่ละปีเราใช้เงินประมาณเท่าไหร่ เพื่อให้ทราบว่าเงินหรือทรัพย์สินที่มีอยู่เพียงพอต่อการใช้จ่ายหลังเกษียณหรือไม่ การรู้จักรายจ่ายที่แท้จริงจะช่วยให้ท่านวางแผนการเงินได้อย่างแม่นยำและเหมาะสมกับความเป็นจริง

2. หาแหล่งรายได้หลังเกษียณ
หลังเกษียณ รายได้ประจำจากเงินเดือนหรือธุรกิจส่วนตัวอาจลดลง จึงจำเป็นจะต้องหาวิธีสร้างรายได้เพิ่มเติม ซึ่งอาจมาได้จากหลายทาง เช่น  เงินบำนาญ เงินบำนาญชราภาพประกันสังคม ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยหุ้นกู้ เงินปันผลจากหุ้น ค่าเช่า เงินคืนจากประกันชีวิต หรือหากยังมีกำลัง การทำงานพิเศษหลังเกษียณก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเพิ่มรายได้

3. ประเมินสุขภาพ
สุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะหลังเกษียณที่เราอาจไม่มีสวัสดิการจากบริษัทหรือประกันกลุ่มรองรับอีกต่อไป การตรวจสุขภาพและประเมินค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้า จะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ท่านสามารถตั้งรับเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้อย่างทันท่วงที

4. ปรับการลงทุนที่เหมาะสม
การลงทุนในวัยนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเงินทุนเป็นหลัก เนื่องจากเงินที่มีอาจเป็นเงินก้อนสุดท้ายสำหรับชีวิตหลังเกษียณ จึงควรเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง และให้ผลตอบแทนที่มั่นคง เน้นการสร้างรายได้มากกว่าเติบโต หากไม่มีความเชี่ยวชาญ สามารถปรึกษานักวางแผนการเงินหรือที่ปรึกษาด้านการลงทุน เพื่อช่วยออกแบบแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับคุณได้

5. จัดการทรัพย์สินที่มีอยู่
ทรัพย์สินที่มีอยู่ควรได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบ สิ่งใดควรเก็บไว้ สิ่งใดสามารถขายเพื่อนำมาใช้ในอนาคตได้ ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากทรัพย์สินบางอย่างอาจเป็นภาระหลังเกษียณ รวมถึงควรเริ่มวางแผนจัดทำพินัยกรรม เพื่อช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงลดความขัดแย้งในครอบครัว 

การวางแผนเกษียณไม่ใช่เรื่องยาก หากเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้อย่างมีเป้าหมายและเป็นระบบ จะช่วยให้ชีวิตหลังเกษียณของคุณเต็มไปด้วยความมั่นคงและความสุขอย่างแท้จริง

FINANSIA WEALTH เรามุ่งเน้นการให้บริการด้านการวางแผนเพื่อการลงทุน การวางแผนเพื่อเกษียณอายุ และการจัดการสินทรัพย์ครอบครัว ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินการลงทุนที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมส่งเสริมความรู้ด้านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อเปิดบัญชีได้ที่
ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ลงทุนลูกค้า
☎️ 02-625-2403
✉️ wealth-management@fnsyrus.com

ติดตามเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงก์ด้านล่าง
Web : https://www.finansiawealth.com/
Facebook : https://www.facebook.com/FinansiaWealth?mibextid=LQQJ4d
Yotube : https://youtube.com/@finansiasyrusfnsyrus?si=zgv2lBycsiXBkaKd

เชื่อว่าหลายๆ คนลงทุนโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “อิสรภาพทางการเงิน” จะดีกว่าไหม?…….ถ้าเราสามารถสร้างผลตอบแทนแบบสม่ำเสมอได้ในทุกสภาวะตลาด จากการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกที่เป็นได้มากกว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป กับ

GSA Coral Student Portfolio (GSA Coral) ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภท Purpose-Build Student Accommodation (PBSA) ทั้งการสร้างสินทรัพย์และให้บริการหอพักนักศึกษาในเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะในตลาดชั้นนำอย่างยุโรปและสหรัฐฯ

GSA Coral แตกต่างจากการลงทุนใน Property Fund & REITs ประเภทอื่นๆ เนื่องจากหอพักนักศึกษาสามารถเพิ่มค่าเช่าได้ดีกว่าโรงงาน สำนักงาน หรือศูนย์การค้า ในอัตราการเช่ามากกว่า 90% ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก เนื่องด้วยอสังหาฯ ที่ลงทุนอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยชั้นนำ อาทิ King’s College London, London Business School, Purdue University และอื่นๆ

GSA Coral จึงเป็นกองทุนที่มีศักยภาพสูง สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ และทนทานต่อทุกสภาวะการลงทุน เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรเศรษฐกิจหรือนโยบายภาครัฐ (ทั่วโลก) แต่อย่างใด

จุดเด่นของกองทุน

  • กระจายการลงทุนในหอพักนักศึกษามากที่สุดในตลาด 9 ประเทศ มากกว่า 41,000 เตียง
  • มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์
  • มีโครงการที่ชัดเจนสำหรับหอพักที่กำลังสร้าง และหอพักที่เริ่มใช้งานแล้ว
  • ทีมผู้บริหาร GSA มีประสบการณ์ในตลาดหอพักนักศึกษามากกว่า 30 ปี
  • มี Joint Ventures เป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ อาทิ Morgan Stanley ,GIC และ Invesco

โอกาส

  • GSA มีแผนเข้าซื้อสินทรัพย์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
  • จำนวนนักศึกษาในปัจจุบันมากกว่าจำนวนที่พักที่มีอยู่ ทำให้อุตสาหกรรมนี้มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
  • จำนวนนักศึกษาทั่วโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการหอพักนักศึกษาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
  • กองทุนรับรายได้สม่ำเสมอจากค่าเช่า และส่วนเพิ่มของมูลค่าทรัพย์สิน
  • ภาพรวมเศรษฐกิจ ระดับอัตราดอกเบี้ย และความผันผวนในตลาดหุ้น เป็นปัจจัยหนุนให้การลงทุนใน GSA Coral ยังคงน่าสนใจ

ผลการดำเนินงาน

  • ผลการดำเนินงานมั่นคงตลอดระยะเวลา 15 ปี เฉลี่ยที่ 6 – 7% ต่อปี ขณะที่ความผันผวนของผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ
  • ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุนปี 2009 (as of Mar 24) อยู่ที่ 168.97%

จากที่กล่าวมาพิจารณาได้ว่า กองทุนนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากมีข้อมูลสนับสนุนที่ค่อนข้างชัดเจน อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความผันผวนต่ำ จึงเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว และการลงทุนเพื่อการเกษียณ

หมายเหตุ : กองทุนนี้เป็นกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) ลงทุนขั้นต่ำ 6 ล้านบาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ “บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)” ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพียงผู้เดียวในไทย

คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน | ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ลงทุนลูกค้า

02-625-2442

wealth-management@fnsyrus.com

ติดตามเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงก์ด้านล่าง

Web : https://www.finansiawealth.com/

Facebook : https://www.facebook.com/FinansiaWealth?mibextid=LQQJ4d

Yotube : https://youtube.com/@finansiasyrusfnsyrus?si=zgv2lBycsiXBkaKd